ข้าวสินค้าเกษตรของขึ้นชื่อที่ประเทศไทยทำการส่งออกเป็นอันดับต้นๆ ของโลกโยเฉพาะข้าวหอมมะลิซึ่งเป็น อัตลักษณ์ของไทย ต่อมาเป็นคิวของข้าวอินทรีย์หรือข้าวที่ใช้กระบวนการธรรมชาติเกือบ 100% ในการผลิต เป็นที่ต้องการอย่างมากในยุคที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพ ทว่า ข้าวหอมมะลิหรือสินค้าอินทรีย์นั้นก็อาจยังอาจไม่เพียงพอที่จะดึงดูดผู้บริโภคได้ เนื่องจากสินค้าเหล่านี้มีอยู่มากมายตามท้องตลาด ทางผู้ประกอบการจึงต้องมองหาสินค้าใหม่ๆ ที่แตกต่างและสร้างความจุดเด่นขึ้นมาภายใต้ผลิตภัณฑ์เดิม และวิสาหกิจชุมชนกลุ่มข้าวอินทรีย์บ้านหนองก็ได้คิดค้นข้าวอินทรีย์พันธุ์ใหม่ ที่ไม่เพียงมีสีไม่เหมือนใครยังมีกลิ่นหอมชวนทานไม่แพ้ข้าวหอมมะลิ นั้นคือ “ข้าวอินทรีย์มะลิใบเตย”

            นายสนอง  แฉล้มชาติ ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มข้าวอินทรีย์บ้านหนองกก ตำบลส้มป่อย อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า อินทรีย์มะลิใบเตย มีกระบวนการที่แปลกและแตกต่างจากข้าวทั่วไป เพราะข้าวอินทรีย์มะลิใบเตยจะต้องเกี่ยวก่อน 20 วัน กล่าวคือการเกี่ยวข้าวปกติจะต้องใช้เวลา 120 วันก็ถึงจะสามารถเกี่ยวข้าวได้ แต่ข้าวอินทรีย์มะลิใบเตยใช้เวลา 100 วันก็สามารถเกี่ยวได้แล้ว ผลผลิตที่ได้ข้าวจะมีลักษณะสีเขียวที่มาพร้อมกับความหอมฟุ้งยามหุง ที่มากกว่าข้าวอินทรีย์ทั่วไป เพราะข้าวยังมีลักษณะคล้ายน้ำนมข้าวอยู่

            โดยน้ำนมข้าว มีคุณค่าทางโภชนาการอยู่มากมาย ทั้งธาตุเหล็ก ไฟเบอร์ บีหนึ่ง บีสอง วิตามินอีและที่ยิ่งใหญ่มากที่สุด น้ำนมข้าวมีเกลือแร่  กลูโคส   วิตามิน E  ช่วยคืนความเปร่งปรั่งให้กับสตรี มีโปรตีน ดูแลการทำงานของร่างกาย ซิ้งค์ ป้องกันโรคภูมิแพ้ ลดความมันป้องกันการเกิดสิว  สารแอนโทไซยานินซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย

           “อดีตเราเคยทำข้าวอินทรีย์มาตั้งแต่ปี 2552 โดยเมื่อก่อนข้าวที่มีสีเขียวเราจะนิยมเอามาทำเป็นลักษณะของข้าวเม่า แต่เพื่อสร้างความแตกต่างเราจึงร่วมกันคิดหาวิธีทำสินค้าอะไรที่มากกว่าข้าวเม่า จึงมีแนวคิดผลิตเป็นข้าวและใช้ชื่อว่าอินทรีย์มะลิใบเตย ตอบรับกับความต้องการตลาดที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ ประกอบกับมีรสชาติที่หอมน่ารับประทาน ซึ่งตอบโจทย์ผู้บริโภคสองอย่างจากผลิตภัณฑ์อันเดียว” ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มข้าวอินทรีย์บ้านหนองกก กล่าว

             สำหรับปัญหาของการทำข้าวอินทรีย์มะลิใบเตยคือความลีบของข้าว เนื่องจากข้าวยังอ่อนอยู่ครึ่งนึงยังไม่สุก ซึ่งอายุของของข้าวอินทรีย์มะลิใบเตยจะอยู่ได้ประมาณ 6-7 เดือน ซึ่งยิ่งนานวันความเชียวของข้าวจะยังคงอยู่แต่ความหอมจะลดลงเรื่อยๆ และเมื่อผ่านไปครบจนครบเวลาจะกลายเป็นข้าวปกติ มันมีลักษณะเหมือนกล้วย ดังนั้นถ้าอยากทานข้าวอินทรีย์มะลิใบเตยให้อร่อยและหอมเตะจมูกจะอยู่ในช่วง 1-2 เดือนแรกเท่านั้น จึงเหมาะสำหรับส่งเป็นออเดอร์และผลิตตามความต้องการเพื่อให้คงความหอมของข้าวให้ถึงมือผู้บริโภคได้นานที่สุด

             “ตอนนี้มีกลุ่มลูกค้าจากภาคกลาง เช่น กรุงเทพฯ และกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพ โดยเรามีการประชาสัมพันธ์ทางเฟสบุ๊คและทางไลน์ชื่อ “ลูกชาวนา” เป็นช่องทางโปรโมทเรื่องข้าวทางเหนื่อง แต่เรายังไม่ได้ผลิตเพื่อเชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรม ตอนนี้หากมองในแง่รายได้ของกลุ่มยังมีลักษณะกระจายอยู่ คือชุมชนขายและเป็นรายได้ส่วนตัวของเขาเอง”

ยุทศาสตร์โอทอป (ล้อมกรอบ)

                การตั้งกลุ่มให้มีความเข้มแข็งและได้มาซึ่งกำไรหรือรายได้ที่เป็นรูปธรรมเพื่อสะท้อนของความสำเร็จของการตั้งการทำการค้า ซึ่งมีอยู่หลายกลุ่มที่ได้ดำเนินการจัดตั้งกลุ่มหรือมีการพัฒนาผลผลิตออกมา แต่ยังขาดการทำบัญชีอาจทำให้ความเข้าใจด้านผลประโยชน์หรือรายได้ที่สมาชิกในกลุ่มจะได้นั้นไม่ชัดเจน อาจส่งผลให้เกิดความขัดแย้งกันในกลุ่มหรือบางคนอาจไม่เห็นประโยชน์จากกลุ่ม เพราะไม่เห็นเม็ดเงินที่จับต้องได้ ส่งผลให้การเติบโตของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเป็นไปได้ยากมากขึ้น