ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คุณภาพชีวิต ย้อนกลับ
กรมการแพทย์เตือนอุดฟันแล้ว ผุซ้ำได้ หากไม่ดูแล
27 มิ.ย. 2562

สถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์แนะนำประชาชนหลังอุดฟันควรหมั่นดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์ หากไม่ดูแล ฟันที่อุดไปมีโอกาสผุซ้ำ

นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์รองอธิบดีกรมการแพทย์กล่าวว่า  การอุดฟัน คือ การบูรณะฟัน เพื่อให้ฟันที่ผุหรือเสียหายกลับมาอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้มีรูปร่างลักษณะเหมือนเดิมหรือใกล้เคียงฟันเดิม หรือได้ฟันที่รูปร่างดีกว่าเดิมพร้อมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพนอกจากนี้การอุดฟันไม่ได้ใช้เฉพาะกรณีฟันผุเท่านั้น สามารถทำได้ในกรณีฟันแตก ฟันบิ่น ฟันมีรอยสึกหรือหากมีอาการเสียวฟัน การอุดฟันสามารถช่วยได้แล้วแต่กรณี ซึ่งบางครั้งการอุดฟันเพื่อแก้ไขฟันเดิมให้สวยงามขึ้นและใช้บดเคี้ยวอาหารได้ด้วย 

ทันตแพทย์อำนาจ ลิขิตกุลธนพร ผู้อำนวยการสถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การอุดฟันไม่เฉพาะแต่ฟันที่มีรอยผุ หรือเป็นรูเพียงอย่างเดียว ฟันที่แตก บิ่น ฟันที่มีรอยสึก หรือมีอาการเสียวฟันขณะทานอาหาร ของหวาน หรือดื่มน้ำเย็นทันตแพทย์จะตรวจฟันหรือบริเวณที่จะอุดก่อน เพื่อดูความเหมาะสมของวัสดุที่ใช้อุด ซึ่งวัสดุที่ใช้อุดฟันมี2 ชนิด คือ อมัลกัมเป็นวัสดุสีเงินที่มักใช้อุดฟันกราม ส่วนอีกชนิดคือ คอมโพสิตเป็นวัสดุสีคล้ายฟันในขั้นตอนของการเตรียมฟัน จะทำการกรอตัดเนื้อฟันที่ผุออก หรือแต่งฟันให้มีขนาดและรูปร่างที่เหมาะสมให้วัสดุยึดติดกับเนื้อฟันได้ดี ทั้งนี้การอุดฟันไม่ว่าจะใช้วัสดุชนิดใด จะมีรอยต่อระหว่างวัสดุกับผิวฟัน สามารถเกิดการสะสมของแบคทีเรียและเกิดรอยผุซ้ำได้อีกดังนั้นหลังจากอุดฟันควรหมั่นดูแลรักษาสุขภาพช่องปาก และปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์ หมั่นตรวจดูรอยอุดว่าอยู่ในสภาพดีหรือไม่ มีรอยแตกบิ่น ใช้ไหมขัดฟันแล้วขาด หรือมีกลิ่นเหม็นบริเวณที่เคยอุดไปแล้ว ควรปรึกษาทันตแพทย์ เกี่ยวกับอาการดังกล่าว เพื่อทำการบูรณะต่อไป 

นอกจากนี้ ควรแปรงฟันทุกวันวันละ 2 ครั้ง หรือแปรงฟันหลังรับประทานอาหารใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ และใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟัน ตลอดจนควรพบทันตแพทย์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง หรือทุก 6 เดือน 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 1 - 15 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...