ปากเสียงของ
คนท้องถิ่น
เพื่อการพัฒนาประเทศ
วันเสาร์ที่ 20 เมษายน 2567
หน้าแรก
อปท. นิวส์
เกี่ยวกับอปท. นิวส์
โปรไฟล์ผู้บริหาร
ข่าวสาร
ข่าวเด่น / ไฮไลท์
ความสัมพันธ์ไทย - จีน และ เศรษฐกิจเพื่อนบ้าน
คอลัมนิสต์ประจำอปท.นิวส์
สังคม / บุคคล
ท้องถิ่นไทย
ท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ
การเมือง / การปกครอง
อปท.เชิญเป็นแขก
ธรรมาภิบาล
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม
คุณภาพชีวิต
เศรษฐกิจชุมชน
เกษตรนำไทย
สื่อสาร - คมนาคม
ท่องเที่ยว
ข่าววงใน!!!
ปฏิทินข่าว
อปท.นิวส์โพล
ข่าวย้อนหลัง
วิดีโอ
ฉบับย้อนหลัง
สมัครสมาชิก
ติดต่อโฆษณา
ติดต่อเรา
ร่วมงานกับเรา
ธรรมาภิบาล
ย้อนกลับ
ศาลตัดสินเจ้าอาวาสวัดกัลยาฯ มีความผิด คดีทุบทำลายโบราณสถานภายในวัด
25 เม.ย. 2562
เมื่อวันที่ 25 เม.ย. นายบวรเวท รุ่งรุจี อดีตอธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ตามที่ในช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศิลปากร ได้ดำเนินการแจ้งความคดีทุบทำลาย โบราณสถาน วัดกัลยาณมิตร เมื่อปี 2558 ต่อ สน.บุปผาราม และต่อมาทางอัยการได้พิจารณาสั่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ทางฝ่ายนิติกรของตนได้แจ้งมาว่า ศาลได้มีคำพิพากษาในคดีดังกล่าวแล้ว โดยตัดสินว่า เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร มีความผิด ต้องโทษจำคุก 3 ปี แต่ทางเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรให้การรับสารภาพ ศาลจึงลดหย่อนโทษให้เหลือ 1 ใน 3 คือ เหลือโทษจำคุก 1 ปี และพิพากษาให้รอลงอาญาเป็นเวลา 1 ปี ทั้งนี้คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากทางวัดกัลยาณมิตรมีการรื้อถอนศาลาราย และกุฏิในคณะ 1 ซึ่งเป็นพื้นที่โบราณสถานตามประกาศของกรมศิลปากร
นายบวรเวท กล่าวต่อไปว่า สำหรับคดีดังกล่าวเป็นคดีแรกที่ศาลได้ตัดสิน หลังจากที่ทางกรมศิลปากรได้ดำเนินการแจ้งความวัดกัลยาณมิตร ที่สน.บุปผาราม ซึ่งหลังจากนี้ยังมีอีก 2 คดี กำลังอยู่ในการพิจารณาคดีของศาล โดยจะเป็นคดีที่เกี่ยวกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุบทำลายโบราณสถาน วัดกัลยาณมิตร ทั้งนี้การที่ตนต้องดำเนินการเข้าแจ้งความในขณะนั้น เพราะการกระทำของวัดกัลยาณมิตรได้มีการทุบทำลายโบราณสถานในเขตโบราณสถาน ซึ่งถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 แก้ไขเพิ่มเติม 2535
ด้านพระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร กล่าวว่า ศาลให้รอลงอาญา 1 ปี ดังนั้นการตัดสินในคดีดังกล่าวถือว่าจบแล้ว สิ้นสุดแล้ว
ขณะที่ นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ในฐานะรองโฆษกพศ. กล่าวว่า กรณีของเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร ถือว่าท่านดำเนินการตามหน้าที่เจ้าอาวาสวัด ที่ระบุในพ.ร.บ.คณะสงฆ์ ที่ให้เจ้าอาวาสมีหน้าที่ บำรุงรักษาวัด จัดกิจการและศาสนสมบัติของวัดให้เป็นไปด้วยดี ท่านจึงดำเนินการบูรณะพัฒนาวัด ดูแลทรัพย์สินวัดตามหน้าที่ของเจ้าอาวาส แต่การดำเนินงานของท่านกลับไม่สอดคล้องกับกฎหมายของทางกรมศิลปากร จึงเกิดการแจ้งความฟ้องร้องขึ้นมา อย่างไรก็ตามในทางคณะสงฆ์ถือว่าท่านไม่ได้มีความบกพร่อง เพราะท่านทำตามหน้าที่ของเจ้าอาวาส และท่านไม่ได้ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย ไม่ได้ทำผิดพระธรรมวินัย ประกอบกับการตัดสินของศาล คือ ให้รอลงอาญา 1 ปี ดังนั้นสถานะทางสมณเพศของท่านยังคงอยู่ รวมไปถึงตำแหน่งทางการปกครองสงฆ์ด้วย
ด้าน พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร กล่าวสั้น ๆ ว่า หลังจากศาลพิพากษาและให้รอลงอาญา 1 ปี เชื่อว่าคดีนี้คงสิ้นสุดแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตำรวจแนะวิธีจับแก๊งค์คอลเซ...
24 ก.พ. 2567
ตำรวจออกคำสั่งห้ามม็อบชุมน...
07 ก.พ. 2567
เรืองไกรยื่นป.ป.ช.สอบรมต.-...
14 ก.พ. 2567
กรมประมงแจ้งจับ3บริษัทสวมส...
21 ก.พ. 2567
ตร.จับแก๊งค์คอลฯใช้ดาวเทีย...
13 เม.ย. 2567
ชาญชัยยื่นหนังสือถึงอธิบดี...
24 ม.ค. 2567
หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
ฉบับที่ 426 ปักษ์หลัง
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.นิวส์
อปท.เชิญเป็นแขก
ดูทั้งหมด
พลตรีผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ดุสิต จันทยานนท์ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิ กองทัพบก
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...