ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
สื่อสาร - คมนาคม ย้อนกลับ
รฟท.ลุยทวงคืนพื้นทึ่รถไฟ เฉียด 7 พันไร่มูลค่าหมื่นล้าน
27 ธ.ค. 2561

นายสมยุทธิ์ เรือนงาม รองผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ในปัจจุบันนั้นการบุกรุกพื้นที่ รฟท.มีแทบเกือบทุกจังหวัด ตั้งแต่พื้นที่ริมทางรถไฟไปจนถึงที่ดินแปลงงามติดภูเขาหรือทะเล ซึ่งจากข้อมูลขณะนี้มีจังหวัดเป้าหมายอยู่ 3 แห่ง ได้แก่ จ.บุรีรัมย์ จ.กาญจนบุรี และจ.พังงา รวม 6,928 ไร่ มูลค่ามากกว่า 1 หมื่นล้านบาท เริ่มจากพื้นที่ใน จ.บุรีรัมย์ รฟท.มีที่อยู่ราว 5,000 ไร่ ในวันนี้ถูกนำไปใช้งานหลายรูปแบบโดยไม่มีการจ่ายค่าเช่าให้ อาทิ สถานที่ราชการ เรือนจำและพื้นที่เชิงพาณิชย์ ตลอดจนอาณาจักรของอดีตนักการเมืองชื่อดัง อย่างพื้นที่ของสโมสรฟุตบอล ทั้งศูนย์ฝึก สนามแข่งขัน ร้านค้าปลีก ตลอดจนสนามแข่งรถชื่อดัง

สำหรับพื้นที่ จ.กาญจนบุรีมีจำนวน 1,070 ไร่ บริเวณสถานีรถไฟน้ำตก อ.ไทรโยค เป็นพื้นที่แปลงงามข้างหน้าติดน้ำตกข้างหลังติดแม่น้ำ ดังนั้น จึงถูกบุกรุกไปทำกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ตอบสนองการท่องเที่ยว ทั้งที่พัก ร้านอาหารและธุรกิจบริการรูปแบบต่างๆ โดยมีทั้งทำสัญญาเช่าและผู้ที่ลักลอบใช้พื้นที่โดยไม่มีสัญญา เช่นเดียวกับ จ.พังงา มีจำนวน 858 ไร่ติดทะเล บริเวณ อ.ท่านุ่นติดกับสะพานสารสิน ปัจจุบันมีเอกชนหลากหลายแห่งใช้พื้นที่เชิงพาณิชย์ทั้งร้านอาหาร ร้านค้าปลีกตลอดจนสถานบันเทิง

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้หากมีการตั้งคณะทำงานดังกล่าวขึ้นมา รฟท.จะลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมเจรจากับเอกชนเพื่อขอเก็บค่าเช่า และอาจจะมีการรื้อย้ายบางส่วน ขณะที่ประชาชนทั่วไปที่บุกรุกพื้นที่รถไฟเพื่อทำเป็นที่พักอาศัยและชุมชมนั้น รฟท.อาจพิจารณาไม่เวนคืน หรือเก็บค่าใช้พื้นที่ เนื่องจากเป็นการใช้ประโยชน์เชิงสังคม มิได้เป็นไปเพื่อการค้าทำกำไร ทั้งนี้ บริเวณชานเมืองของกรุงเทพมหานครที่พบว่ามีการบุกรุกใช้พื้นที่ รฟท.จำนวนมากได้แก่ แขวงตลิ่งชัน แขวงบางระมาด และฝั่งธนบุรี

“ปัญหาพวกนี้ปล่อยไว้นานไปมันยิ่งเรื้อรังทำให้แก้ไขได้ยาก วันนี้ผู้บริหารให้ความสำคัญกับการจัดหารายได้เชิงพาณิชย์จึงต้องเร่งจัดระเบียบการใช้พื้นที่ให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย”นายสมยุทธิ์กล่าว

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 มีนาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...