ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
สื่อสาร - คมนาคม ย้อนกลับ
บอร์ดดีอี ไฟเขียวเสนอ ครม. จัดตั้ง“สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจฯ”
02 ส.ค. 2561

มติที่ประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) ครั้งที่ 3/2561 เห็นชอบในหลักการและสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... มอบ สดช. เสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา

พร้อมให้กระทรวงดิจิทัลฯ ร่วมกับสำนักงาน กสทช. ดำเนินการตามแผนงานเตรียมโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อน 5G ทั้งยังสนับสนุนการพัฒนากำลังคนภาครัฐให้พร้อมเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล และการปรับเปลี่ยนภาครัฐสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล ตามยุทธศาสตร์ที่ 5 และยุทธศาสตร์ที่ 4 ของแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระยะ 20 ปี

ทั้งนี้ ภายหลังการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2561 ที่มี พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ ที่ประชุมฯ ได้พิจารณาและเห็นชอบเรื่องสำคัญๆ อาทิ เห็นชอบในหลักการและสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... พร้อมมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป ซึ่งกระทรวงดิจิทัลฯ สดช. และสมาคมสมาพันธ์เทคโนโลยีสารสนเทศแห่งประเทศไทย (TFIT) ได้ร่วมผลักดันการจัดตั้งสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย

โดยการร่าง พ.ร.บ.สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย มีสาระสำคัญแบ่งออกเป็น 7 หมวด ได้แก่ หมวด 1 ให้กระทรวงดิจิทัลฯ ดำเนินการจัดตั้งสภาดิจิทัลฯ โดยให้มีฐานะเป็นนิติบุคคลและมีอำนาจหน้าที่เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดใน พ.ร.บ.สภาดิจิทัลฯ หมวด 2 สมาชิกของสภาดิจิทัลฯ แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ สมาชิกสามัญ สมาชิกวิสามัญ และสมาชิกกิตติมศักดิ์ หมวด3 คณะกรรมการบริหารมีอำนาจหน้าที่วางนโยบายและดำเนินกิจการของสภาดิจิทัลฯ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสภาดิจิทัลฯ

หมวด 4 สำนักงานสภาดิจิทัลฯ มีผู้อำนวยการเป็นหัวหน้าสำนักงานโดยตำแหน่ง ทำหน้าที่บริหารกำกับดูแลการดำเนินงานประจำของสำนักงานให้เป็นไปตามนโยบายคณะกรรมการ หมวด 5 ให้คณะกรรมการบริหารของสภาดิจิทัลฯ จัดทำรายงานประจำปีแสดงผลงานคณะกรรมการบริหาร หมวด 6 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ กำกับดูแลการทำงานของสภาดิจิทัลฯ ได้ตามขอบเขตที่ พ.ร.บ.สภาดิจิทัลฯ กำหนด และหมวด 7 ผู้ฝ่าฝืนบทบัญญัติของสภาดิจิทัลฯ ต้องระวางโทษปรับ

นอกจากนี้ ยังเห็นชอบหลักการของแนวทางการเตรียมโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนเทคโนโลยี 5G รวมทั้งการร่วมใช้โครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม (Infrastructure Sharing) เพื่อเร่งรัดการพัฒนา 5G ตลอดจนเพิ่มการครอบคลุมพื้นที่ให้บริการและเข้าถึงประชาชนได้มากขึ้น รวมทั้งหลักการของการทดสอบภาคสนามในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ที่เป็นความร่วมมือของภาครัฐและภาคเอกชน และเป็นการทดสอบที่รองรับการร่วมใช้โครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งเปิดรับผู้ประกอบการโทรคมนาคมและเทคโนโลยีที่หลากหลาย ซึ่งจะนำไปใช้ประโยชน์ต่อพื้นที่ต่อเนื่องและในวงกว้างของประเทศต่อไป

โดยมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลฯ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนงานเตรียมโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อน 5G เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุน โดยพิจารณานโยบายที่ให้เกิดการร่วมใช้ทรัพยากรเพื่อรองรับความจำเป็นในการติดตั้งเสาส่งจำนวนมาก และเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

นอกจากนั้น ที่ประชุมยังได้รับทราบรายงานผลการดำเนินงานคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินนโยบายเพื่อใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ศูนย์ข้อมูล (Data Center)และคลาวด์ คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) ได้รายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินงานของคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินนโยบายเพื่อใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ศูนย์ข้อมูล (Data Center) และคลาวด์ คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ครั้งที่ 2 (ระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม – 29 มิถุนายน 2561) ซึ่งได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 3 คณะ ได้แก่ คณะอนุกรรมการออกแบบสถาปัตยกรรม (Architecture Design) ระบบบูรณาการข้อมูลภาครัฐ คณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย กฎระเบียบ เพื่อการใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่ และคณะอนุกรรมการด้านการพัฒนาบุคลากรเพื่อการใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่ รวมทั้งได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) อย่างต่อเนื่องด้วย

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...