นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงขั้นตอนในการดำเนินคดีโครงการรับจำนำข้าวนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้ในคดีอาญาอยู่ที่ศาลฎีกาแผนกอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และในคดีแพ่งอยู่ในศาลปกครอง ขณะเดียวกัน กรมบังคับคดีก็สามารถดำเนินการยืดทรัพย์นางสาวยิ่งลักษณ์ แต่ขณะนี้ยังไม่ดำเนินการ เพราะต้องตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมด และยังไม่มีคำสั่งทางปกครองทุเลาการยืดทรัพย์ออกมาด้วย ส่วนกรณีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ออกมาร่ำไห้กับความไม่เป็นธรรมกับคดีโครงการรับจำนำข้าวนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าจะมีกลุ่มการเมืองออกมาเคลื่อนไหวหรือไม่ แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีอะไร

    ขณะเดียวกันนายวิษณุ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่มีข้าราชการเข้ามาเกี่ยวข้อง 800 คดีที่อยู่ในการพิจารณาของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ว่า ได้มีการรายงานความคืบหน้าให้ตนรับทราบมาโดยตลอด และยังไม่สามารถตอบได้ว่าคดีดังกล่าวนั้นแล้วเสร็จไปแล้วกี่คดี เนื่องจากมีการแบ่งจำแนกในหลายประเภท

นายวิษณุ กล่าวปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกรณีที่หลายพรรคการเมืองยังคงออกมาคัดค้านระบบไพรมารีโหวตเพราะเกรงว่าจะไม่สามารถส่งตัวผู้สมัครได้ทัน แต่ระบุว่า ในทางปฏิบัติหากพรรคการเมือง ไม่สามารถดำเนินการสรรหาผู้ลงเลือกตั้งด้วยระบบไพรมารีโหวตได้ทันก็อาจจะมีผลกระทบต่อพรรคการเมือง เว้นแต่จะมีบัญญัติข้อยกเว้นไว้ให้ แต่หากจะใช้ระบบนี้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า อาจจะต้องมียืดหยุ่นตามที่สังคมต้องการ แต่เกรงว่าจะเป็นการเลือกปฏิบัติที่บังคับแล้วควรจะบังคับเลย ดังนั้นผู้ที่ร่างกฎหมาย จะต้องหาวิธีการแก้ปัญหา

    พร้อมกันนี้นายวิษณุ กล่าวถึงมติคณะรัฐมนตรีที่ให้สวนสัตว์ไนท์ซาฟารี ไปสังกัดองค์การสวนสัตว์แทนสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) จนพนักงานของสวนสัตว์ไนท์ซาฟารีรวมตัวคัดค้านว่า มติคณะรัฐมนตรีจะไม่กระทบต่อพนักงาน เพียงโอนย้ายให้องค์การสวนสัตว์มากำกับดูแลแทนเท่านั้น ส่วนสวัสดิการ การจ้างงานพนักงานสวนสัตว์ไนท์ซาฟารี จะยังคงเป็นไปตามสัญญาจ้าง ไม่มีการลดลัดตันทอน สัญญาใดๆ รวมถึงจะไม่กระทบต่อสัตว์ในไนท์ซาฟารีด้วย

    นอกจากนี้ นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณีที่ในวันพรุ่งนี้ จะเชิญตัวแทนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. มาหารือถึงกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ พศ. เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินอุดหนุนวัด ว่า เป็นการเชิญมาพูดคุยเพื่อสอบถามในเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมรายงานสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว และแนวทางดำเนินการในอนาคต ซึ่งเป็นการเจอกันครั้งแรกในรอบ 2 เดือน  ซึ่งในครั้งนี้ จำเป็นต้องเชิญมาสอบถาม เพราะอาจจะต้องแนะนำในบางอย่าง  ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก ที่จะเชิญผู้แทนของหน่วยงานมาสอบถาม เป็นเรื่องคดีธรรมดา

   ส่วนข้อเท็จจริงที่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ พศ.เกี่ยวข้องกับการทุจริตเป็นจำนวนมาก นายวิษณุ ยอมรับว่า ขณะนี้ทราบเท่าที่หนังสือพิมพ์ลงเท่านั้น ส่วนรัฐบาลจะดำเนินการทางปกครองในการยึดทรัพย์สินกับเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถตอบได้ ต้องขอคุยกันก่อน เพราะตนไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาโดยตรง เป็นเพียงในฐานะกำกับดูแลเท่านั้น  แต่สุดท้ายผู้ทำผิด ก็ต้องรับผิดชอบ