ปากเสียงของ
คนท้องถิ่น
เพื่อการพัฒนาประเทศ
วันเสาร์ที่ 20 เมษายน 2567
หน้าแรก
อปท. นิวส์
เกี่ยวกับอปท. นิวส์
โปรไฟล์ผู้บริหาร
ข่าวสาร
ข่าวเด่น / ไฮไลท์
ความสัมพันธ์ไทย - จีน และ เศรษฐกิจเพื่อนบ้าน
คอลัมนิสต์ประจำอปท.นิวส์
สังคม / บุคคล
ท้องถิ่นไทย
ท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ
การเมือง / การปกครอง
อปท.เชิญเป็นแขก
ธรรมาภิบาล
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม
คุณภาพชีวิต
เศรษฐกิจชุมชน
เกษตรนำไทย
สื่อสาร - คมนาคม
ท่องเที่ยว
ข่าววงใน!!!
ปฏิทินข่าว
อปท.นิวส์โพล
ข่าวย้อนหลัง
วิดีโอ
ฉบับย้อนหลัง
สมัครสมาชิก
ติดต่อโฆษณา
ติดต่อเรา
ร่วมงานกับเรา
การเมือง / การปกครอง
ย้อนกลับ
พิชัย ห่วง “ประยุทธ์” ทำ “ประเทศหนี้ล้น ประชาชนหนี้ท่วม” ยกเพดานหนี้สาธารณะแตะ 70 %
21 ก.ย. 2564
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ กำลังต้องยกเพดานหนี้สาธารณะจาก 60% ของจีดีพี เป็น 70% ของจีดีพี ทั้งที่พยายามโม้มาตลอดว่าหนี้สาธารณะจะไม่เกินเพดาน 60% แต่สุดท้ายก็ต้องกู้ทะลุเพดาน และเป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก เพราะตลอด 7 ปีที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ไม่เคยรู้จักการหารายได้มาใช้หนึ้เลย ดังนั้นการที่หนี้สาธารณะจะพุ่งไปถึง 70% จะทำให้รัฐบาลมีปัญหาในการชำระหนี้ เพราะปัจจุบันรายได้ของรัฐซึ่งส่วนใหญ่มาจากภาษีอากรที่เก็บได้ลดลง เหลือเพียง 13-14% ของจีดีพีเท่านั้น รายได้จะไม่สามารถใช้หนี้ได้เลย จะมาอ้างประเทศอื่นเช่น ญี่ปุ่น หรือ สหรัฐ ที่มีสัดส่วนหนี้สาธารณะสูงกว่า แต่ประเทศเขาเก็บภาษีได้ในสัดส่วนที่สูงกว่าประเทศไทยมากเช่นกัน การที่พลเอกประยุทธ์กู้จนจะถึง 70% จะเป็นปัญหาสำหรับรัฐบาลในอนาคตที่จะต้องใช้เงินในการฟื้นเศรษฐกิจ เพราะถ้าพลเอกประยุทธ์กู้มากเกิน รัฐบาลในอนาคตแม้จะมีความสามารถมากกว่า แต่จะไม่มีเงินเหลือให้กู้มาฟื้นเศรษฐกิจได้ ประชาชนจะลำบากกันอย่างรุนแรงและยาวนาน ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ มีการเปิดเผยว่าหนี้ครัวเรือนได้ขึ้นไปถึง 14.13 ล้านล้านบาทหรือ 90.5% ของจีดีพี และ จะทะลุ 93% ภายในสิ้นปี ซึ่งแสดงถึงความลำบากของประชาชนที่รายได้ไม่พอค่าใช้จ่ายจึงต้องไปกู้หนี้ยืมสินจนหนี้ทะลุไปมาก ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ตลอดเวลาที่พลเอกประยุทธ์บริหารเศรษฐกิจล้มเหลวจนทำให้ “ประเทศหนี้ล้น ประชาชนหนี้ท่วม” หนี้สินเพิ่มพูน ลำบากกันตั้งแต่รัฐบาลยันประชาชนเลย ดังนั้น การที่พลเอกประยุทธ์ขายฝันอีกครั้งว่าจะทำให้ไทยเป็นประเทศมีรายได้สูง มีความสงบ และ คนไทยมีความสุข จึงไม่เป็นความจริง และยังเป็นการโกหกพูดเรื่อยเปื่อยเพื่อจะเอาตัวรอดในภาวะวิกฤตินี้เท่านั้น ทั้งนี้เพราะตามยุทธศาสตร์ชาติเองเศรษฐกิจไทยจะต้องขยายตัวปีละ 5% ไปอีก 20 ปี ประเทศไทยถึงจะเป็นประเทศที่มีรายได้สูงได้ แต่ 7 ปีที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์บริหารเศรษฐกิจของไทยขยายตัวเฉลี่ยได้เพียง 2% เท่านั้น และ 2 ปีที่ผ่านมาที่มีการนำยุทธศาสตร์ชาติมาเริ่มใช้ พลเอกประยุทธ์กลับบริหารเศรษฐกิจติดลบถึง - 3.8 % ด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าขยายตัวในระดับนี้อีก 50 ปี ไทยก็เป็นประเทศรายได้สูงไม่ได้ แบบนี้ถือเป็นเฟคนิวส์หรือไม่ นอกจากนี้ ประเทศจะสงบได้อย่างไร ในเมื่อประชาขนจำนวนมากลำบากและเดือดร้อนจึงทนต่อความล้มเหลวของพลเอกประยุทธ์ไม่ได้ และต้องออกมาประท้วงขับไล่ แต่พลเอกประยุทธ์กลับให้ตำรวจใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ซึ่งได้รับบาดเจ็บกันเป็นจำนวนมาก อีกทั้ง คนไทยจะมีความสุขได้อย่างไรในเมื่อญาติพี่น้องเพื่อนฝูงต้องมาเจ็บมาตายจากไวรัสโควิดจากความล้มเหลวของพลเอกประยุทธ์ที่ไม่สามารถควบคุมการระบาดได้อีกทั้งยังบริหารจัดการวัคซีนผิดพลาดมาตลอดพร้อมข่าวคราวการทุจริตคอรัปชั่นในส่วนต่างของราคาวัคซีน ซึ่งส่งผลทำให้เศรษฐกิจไทยต้องย่ำแย่ ประชาชนไม่มีรายได้ ตกงาน และ อดอยากกันเป็นจำนวนมาก ดังนั้นสิ่งที่พลเอกประยุทธ์พูดมา จึงตรงข้ามกับความเป็นจริงทั้งหมด และ พลเอกประยุทธ์จะไม่สามารถทำได้จริงตามที่พูด เป็นได้แค่การขายฝัน โดยมีแต่จะทำให้แย่ลงไปเรื่อยๆ การที่ไทยจะเป็นประเทศรายได้สูง ประเทศมีความสงบ และ คนไทยมีความสุขได้ ประเทศไทยจะต้องมีผู้นำที่ฉลาดกว่าผู้นำในปัจจุบันมาก โดยจะต้องรอบรู้และตามโลกให้ทัน คิดล่วงหน้าได้ และสามารถจะทำหลายๆเรื่องได้พร้อมกัน ไม่ใช่ถูกด่าทีถึงจะทำที และ ที่สำคัญจะต้องมีใจรักประชาชนอย่างแท้จริงไม่ใช่แค่คำพูด ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ตรงข้ามกับพลเอกประยุทธ์ทั้งหมด ดังนั้นหากประเทศไทยจะก้าวหน้าต่อไปได้ ไทยจะต้องเปลี่ยนผู้นำที่ฉลาดและเก่งกว่าปัจจุบันมากเท่านั้น เพราะผู้นำปัจจุบันยากที่จะแก้ไขและเปลี่ยนแปลงได้แล้ว ทั้งนี้ การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นประเทศรายได้สูง มีการกระจายรายได้ ยกระดับความเป็นอยู่ของคนไทย เป็นนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทยมาตลอด โดยมีแผนงานและวิธีการชัดเจน ซึ่งหากมองย้อนหลังจะพบว่าหากไม่มีการปฏิวัติเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ประเทศไทยน่าจะพัฒนาเป็นประเทศรายได้สูงไปแล้ว เหมือนที่ประเทศเอสโตเนียได้พัฒนาประเทศ นับเป็นความสูญเสียโอกาสอย่างใหญ่หลวงของประเทศไทย ที่เกิดมาจากการปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ มุ่งผลักดัน Soft Pow...
02 เม.ย. 2567
มท.เตรียมออกอัตราค่าเก็บขย...
11 ก.พ. 2567
นายกฯ นำคณะร่วมกิจกรรมส่งเ...
27 ก.พ. 2567
ครม. อนุมัติแต่งตั้งกรรมก...
13 ก.พ. 2567
ปลัด มท. ลงพื้นที่ตรวจเยี่...
17 มี.ค. 2567
นายกฯสรุปผลหารือ 12 เอกชนฝ...
09 มี.ค. 2567
หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
ฉบับที่ 426 ปักษ์หลัง
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.นิวส์
อปท.เชิญเป็นแขก
ดูทั้งหมด
พลตรีผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ดุสิต จันทยานนท์ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิ กองทัพบก
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...