เอกชนพร้อมใจเรียกร้องภาครัฐ ผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มนักท่องเที่ยวเข้าออกจังหวัดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แฉต่างชาติโวย เหมือนถูกหลอกให้มาเที่ยว แต่ดื่มกินเดินทางต่อไม่ได้

เมื่อวันที่ 29 ส.ค. นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ใน จ.ภูเก็ต ช่วงนี้ ไม่ได้มาจากผู้ที่มาจากข้างนอก แต่เป็นการระบาดภายในจังหวัด เป็นกิจกรรมภายในจังหวัด จึงขอให้มีช่องทางผ่อนปรนการเข้ามาให้บุคคลที่เข้ามาต้องมีวัคซีนครบ มีผลตรวจสวอพ ยกมาตรการเข้มข้นเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้บ้าง

ด้าน น.ส.เชิญพร กาญจนสายะ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เดือน ก.ย.นี้ เป็นจุดสำคัญของ จ.ภูเก็ต ต้องจัดระเบียบสาธารณสุขใหม่ในผู้ป่วยสีเขียว เหลือง และแดง กระบวนการจัดการใหม่ต้องกวาดต้อนคนที่ไม่ได้วัคซีนให้ได้วัคซีนมากที่สุดเพื่อเป็นเกราะป้องกัน และเตรียมการฉีดให้เด็กเร็วที่สุด ส่วนการทำสมาร์ทเช็คพ้อยท์ ในมาตรการเข้า จ.ภูเก็ต ทางดีป้าได้ทำในเรื่องนี้ คาดว่า น่าจะเริ่มในเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งหากจะเปิดเกาะภูเก็ตต้องมีมาตรการรองรับที่ดีที่สุด จึงเสนอว่ารอให้ระบบสมาร์ทเช็คพ้อยท์เสร็จก่อน จึงจะเปิดรับบุคคลต่างๆ เข้ามา

ขณะที่ นายสรายุทธ มัลลัม ประธานที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า หาก จ.ภูเก็ต มีมาตรการปิด 2 เดือน "ภูเก็ต แซนด์บอกซ์" จบแน่นอน โดยกงสุลต่างชาติบอกว่า จ.ภูเก็ต หลอกนักท่องเที่ยว พวกเขาโดนหลอกให้เข้ามา หากมีการปิดจังหวัดอีก เราพร้อมจะไม่มีแขก จะไม่มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาคนกรุงเทพฯ คนยุโรป ที่จะเข้ามาในไฮซีซั่นจะหายไป”

"เราต้องบาลานซ์ให้ได้ ต้องอยู่กับโควิดให้ได้ ถ้าเปิดให้คนกรุงเทพฯ เข้ามา มาตรการกิจกรรมต้องเหมือนเดิม นักท่องเที่ยวยุโรปดินเนอร์ต้องมีเบียร์ ไวน์ แต่วันนี้ทำอะไรไม่ได้เลย มันเหมือนถูกบังคับให้มาเที่ยว วันนี้ฝรั่งบอกโดนหลอกมา 3 เดือน เมื่อ จ.ภูเก็ตไม่พร้อม แล้วเปิดทำไม ถ้าไม่มีการผ่อนผันมาตรการจะพัง ขอให้ลดหย่อนบ้าง ถ้าภูเก็ตยังคุม 16 มาตรการเดิม จะเป็นการยกเลิกสายการบินทั้งหมด ตอนนี้ปัญหาเราคือผู้ป่วยสีเขียวเหมือนไข้หวัดอยู่บ้านได้ ต้องทำความเข้าใจกับคนภูเก็ตว่า รุนแรงน้อยมาก ควรปรับลดกิจกรรมให้ผ่อนคลายได้บ้าง การเดินทางไปเกาะพีพี กระบี่คนอยากไปมากแต่ไม่มีคนจอง เพราะขากลับเข้ามาภูเก็ตต้องมีการตรวจสวอพ ถ้าภูเก็ตแซนด์บอกซ์หยุด ไม่มีคนเข้ามาภูเก็ตก็ตายหมู่" นายสรายุทธกล่าว

อย่างรก็ตาม ที่ผ่านมา การเปิดรับนักท่องเที่ยวมีโรงแรม 300 แห่ง ไปกู้เงินมาคนละ 8-10 ล้านบาท นำมาปรับปรุงโรงแรม ถ้าโควิดจบ แซนด์บอกซ์ไม่มี งานนึ้เผาจริง ดังนั้น ภาคเอกชนรวมตัวขอร้องวิงวอนขอให้จังหวัดพิจารณาให้รอบคอบรอบด้าน อย่ามุ่งแต่ตัวเลขติดเชื้อที่พุ่งสูงต้องควบคุม จะเห็นได้ว่า ตั้งแต่ 1 ส.ค. ปิดพื้นที่มาไม่ได้ผล เพราะมีคนติดเชื้อสูงขึ้น ควรใช้โมเดลของประเทศอังกฤษในการจัดการโควิด

นางวิรินทร์ตรา ปภากิจยศพัฒน์ นายกสมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวภูเก็ต (ทางเรือ) กล่าวว่า การออกไปเที่ยวทางทะเลจากภูเก็ตแซนด์บอกซ์ไปเกาะพีพีแบบ 7+7 นักท่องเที่ยวและลูกเรือนำเที่ยวที่ออกไปขากลับเข้ามา ต้องมีผลตรวจเข้ามาภูเก็ตอีกครั้ง ต้องรอผลตรวจที่ล่าช้ามากกระทบกับเศรษฐกิจ ซึ่งน่าจะเปิดบางส่วนบ้างช่วยขยับเศรษฐกิจได้บ้าง ขอให้มีการเปิดเส้นทาง One Day Trip ทางเรือและทางรถ ไป จ.พังงา จ.กระบี่ ในการเดินทางของนักท่องเที่ยว One Day Trip และพนักงานที่ให้บริการบนเรือ พนักงานขับรถ ไกด์ ขอให้ผลตรวจสวอพครั้งที่ 2 และ 3 หรือผลตรวจ 72 ชั่วโมง เข้าออกภูเก็ตได้โดยไม่ต้องตรวจซ้ำ

ทางด้านนายกฤษฎา พิเชฐพงษานนท์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเลภูเก็ต กล่าวว่า จ.ภูเก็ต เป็นเมืองท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวเข้ามาสิ่งที่เขาตั้งคำถามคือ มาเที่ยวภูเก็ตแต่ไปพังงาและกระบี่ไม่ได้ เป็นปัญหาใหญ่สะท้อนกลับมาที่แซนด์บอกซ์มีคลิปออกไปมาก ว่า หลอกให้เขามาเที่ยวกฎเกณฑ์ไม่ชัดเจน เปลี่ยนแปลงตลอด ขอให้รวม จ.พังงา จ.กระบี่ เป็นคลัสเตอร์เดียวกันในการทำทัวร์เรือประเภท One Day Trip ไปเช้ากลับเย็น ไม่ได้ค้างคืน ถ้ารอผลตรวจสวอพอยู่จะล่าช้ามาก กระทบการทำทัวร์ One Day Trip จึงขอให้พิจารณาหลักเกณฑ์ดังกล่าว" นายกฤษฎา กล่าวที่สุด