ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
ศบค.ปลดล็อคร้านอาหารนั่งกินได้/เดินทางระหว่างจว.
25 ส.ค. 2564

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผ่านรายการแจงให้เคลียร์กับทีมโฆษกรัฐบาลว่า ในวันที่ 27 ส.ค.2564 จะมีการประชุม ศบค.เวลา 09.30 น. เพื่อพิจารณาผ่อนคลายมาตรการที่ว่าเราพร้อมจะเปิดให้ร้านอาหารให้บริการประชาชนได้แล้วหรือไม่ โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมา ศบค. และกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ได้ทำงานร่วมกับภาคเอกชนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในเรื่องของร้านอาหาร ผู้ประกอบการอยากให้มีการผ่อนคลาย คือเปิดให้บริการได้ 50% ทาง ศบค.ก็รับฟังข้อคิดเห็นตรงนี้ และก็คิดว่าด้วยจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อลดลงต่ำกว่า 2 หมื่นรายมา 2-3 วัน แนวโน้มก็อาจจะเปิดให้บริการทั้งร้านอาหารหรือธุรกิจอื่นๆได้

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ในส่วนร้านอาหารที่คาดว่าจะเปิดบริการได้ แต่ยังไม่เปิดฟรีทั้งหมด และมีมาตรการที่ผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติอื่นๆตามมาด้วย เช่น การเว้นระยะห่าง เพื่อไม่ให้เกิดการแออัด อากาศจะต้องถ่ายเทได้ดีพนักงานจะต้องปลอดโรค ได้รับวัคซีน 2 เข็มหรือหากยังไม่ได้รับวัคซีนจะต้องมีการตรวจคัดกรองด้วยชุด ATK ทุก 3 หรือ 7 วัน และผู้มารับบริการจะต้องแสดงหลักฐานว่าได้รับการฉีดวัคซีนมาแล้ว เป็นต้น ซึ่งทั้งนี้เป็นเพียงแค่หลักการที่ทางกระทรวงสาธารณสุขจะนำเสนอที่ประชุมศบค.หากจะมีการอนุมัติผ่อนคลาย หรือเงื่อนไขที่ร้านอาหารหรือประชาชนจะต้องทำอะไรบ้างรายละเอียดขอให้ติดตามผลการประชุม ศบค.ในวันดังกล่าว

ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขยังมีการเสนอมาตรการเพิ่มเติมในเรื่องของการผ่อนคลายมาตรการ เช่น การเดินทางข้ามจังหวัดจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด สามารถเดินทางได้ แต่รายละเอียดขอให้ไปติดตามในที่ประชุมศบค. ส่วนการปรับมาตรการในส่วนของกิจการห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ มีการเปิดกิจการ กิจกรรมบางประเภท เช่น ร้านเสริมสวย ร้านนวดฝ่าเท้าการปรับใช้อาคารของสถานศึกษา และการเปิดใช้สนามกีฬา อย่างไรก็ตาม สถานบริการ สถานบันเทิง หรือสถานบริการอื่นๆในลักษณะคล้ายกัน ยังคงไม่เปิดให้บริการในทุกพื้นที่ ทุกกิจการ กิจกรรมจะต้องดำเนินการตามหลักสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...