ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
อปท.เชิญเป็นแขก ย้อนกลับ
กนกพร เดชเดโช นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครศรีธรรมราช
03 พ.ค. 2564

            การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบละสมาชิกสภาจ.) และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ทั่วประเทศ ที่ผ่านพ้นไปเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2563 นอกจากจะเป็นการเปิดให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ว่างเว้นมานานกว่า 6 ปีแล้ว ผลการเลือกตั้งครั้งนั้นยังมีปรากฎการณ์ที่สำคัญเกิดขึ้นด้วย โดยเฉพาะ มีผู้หญิงที่ได้รับเลือกตั้งให้เข้าไปนั่งเก้าอี้ นายก อบจ. ถึง 12 จังหวัด หรือกล่าวได้ว่า เป็นการเลือกตั้งที่ได้นายก อบจ. เป็นผู้หญิงมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์

            และในวันนี้ อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก จะพาท่านผู้อ่านมาทำความรู้จักกับ 1 ใน 12 นายก อบจ.หญิงของประเทศไทยคนหนึ่ง นั่นก็คือ กนกพร เดชเดโช นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครศรีธรรมราช โดยเฉพาะ นายก อบจ.หญิง แห่งเมืองนครฯ ผู้นี้ เธอยังได้คะแนนไว้วางใจจากประชาชนชาวนครศรีธรรมราชสูงถึง 258,821 คะแนน ถือเป็นนายก อบจ.หญิง ที่ได้คะแนนสูงเป็นอันดับที่ 2 จาก นายก อบจ.หญิงทั้ง 12 คน เป็นนายก อบจ.หญิงคนแรกของจังหวัดนครศนรีธรรมราช และเธอผู้นี้ยังเป็นคุณแม่ของ ชัยชนะ เดชเดโช ส.ส. เมืองนครศรีธรรมราช แห่งพรรคประชาธิปัตย์ด้วย

คุณกนกพร เริ่มเปิดเผยถึงพื้นเพของเธอว่า เป็นคนอำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช อย่างไรก็ตามหลังจากอำเภอร่อนพิบูลย์แยกไปเป็นอำเภอเฉลิมพระเกียรติและอำเภอจุฬาภรณ์ ดังนั้น ตอนนี้จึงกลายเป็นคนอำเภอเฉลิมพระเกียรติไปแล้ว ซึ่งฐานะของครอบครัวก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร สู้ชีวิตมาทั้งเรื่องของการศึกษาและการทำงาน ซึ่งการเลี้ยงดูของครอบครัวจะเน้นเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สอนให้ไม่เอาเปรียบคนอื่น และต้องทำงานสุจริต โดยพ่อของคุณปู่มาจากเมืองจีน เป็นจีนไหหลำก็เป็นพ่อค้าขายของ เลี้ยงลูกเลี้ยงหลานกันมา จากนั้นก็มีคุณปู่เป็นผู้ใหญ่บ้าน ส่วนคุณพ่อหันมาทำสวนทำนาทำไร่ และก็มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน เป็นทั้งข้าราชการกับทำธุรกิจส่วนตัว จากนั้นก็มาสมรสกับ วิฑูรย์ เดชเดโช ซึ่งเป็นอดีตนายก อบจ. นครศรีธรรมราช

“ขณะนั้นคุณวิฑูรย์ก็เป็นเพียงประชาชนคนทั่วไป ทำงานธุรกิจส่วนตัว ยังไม่ได้มีตำแหน่งอะไร แต่เป็นคนที่ตั้งใจทำงาน และมีอุดมการณ์ในการพัฒนาบ้านเมือง พออายุ 27 ปี ก็ตัดสินใจมาลงสมาชิกสภาจังหวัด (สจ.) ในเขตอำเภอร่อนพิบูลย์ ซึ่งก็เริ่มมาเป็น สจ.ตั้งแต่นั้นมา ประกอบกับได้ร่วมคู่ชีวิตด้วยกันมาที่ยังคงเน้นชีวิตแบบปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ก็ต่อสู้ชีวิตกันมา เนื่องจากเราไม่ได้เป็นคนรวยอะไร แต่ด้วยความตั้งใจในการทำงานและการใช้ชีวิต ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ ซึ่งก็เริ่มเข้ามาพัฒนาบ้านเมือง โดยอยู่คู่เบื้องหลังกับคุณวิฑูรย์มาโดยตลอด เพราะถือว่ามีสายเลือดของนักการเมืองด้วยอยู่แล้ว คือคุณปู่ก็เป็นผู้ใหญ่บ้านก็ได้ซึมซับในเรื่องนี้มา” นายก อบจ.หญิง แห่งเมืองนครศรีธรรมราช กล่าว

อย่างไรก็ตาม พอปี 2547 ก็ได้ตัดสินใจลง สจ.ในเขตร่อนพิบูลย์ เขตที่ 2 ก็ได้คะแนนชนะมา พอครั้งที่ 2 ก็ได้รับคะแนนชนะเลือกตั้งอีก โดยทำงานอยู่กับชาวบ้านช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอด พอในปี 2552 คุณวิฑูรย์ได้เสียชีวิตลงด้วยความสงบ หลังจากนั้นก็เลี้ยงลูกมาด้วยคำสอนของคุณพ่อ คือให้ตั้งใจทำงาน ปฎิบัติตัวตามที่คุณพ่อของเขาได้เคยสอนไว้ ซึ่งต้องบอกเลยว่า คุณวิฑูรย์เป็นคนดีมาก ไม่เอาเปรียบใคร สอนลูกสอนภรรยาให้รู้จักบุญคุณคน ซึ่งก่อนที่คุณวิฑูรย์จะจากไป ก็ได้ย้ำกับพวกเราเสมอว่า อย่าทิ้งประชาชน เพราะเป็นคนที่สร้างเรามาในทางการเมือง

นายก อบจ.นครศรีธรรมราช เล่าให้ฟังด้วยว่า สิ่งที่ภูมิใจมากที่สุดคือครอบครัว ทุกคนที่ลงการเมือง เราไม่เคยซื้อเสียง เรามาจากเสียงของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง เพราะเขาเห็นว่า เราทำงานเพื่อสังคมจริงๆ ซึ่งหลังจากสามีเสียชีวิตไป ก็ไม่ทอดทิ้งประชาชนและอยู่เคียงข้างกับพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด แม้จะไม่มีงบจากหน่วยงานใดมาสนับสนุนเลยก็ตาม ประกอบกับตนเองก็มีใจที่อยากจะช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ก็ 11 ปีแล้วที่ทำงานกับพี่น้องประชาชนมา ซึ่งภูมิใจและดีใจมากที่ได้เป็นนายก อบจ. ผู้หญิงคนแรกของจังหวัดนครศรีธรรมราช

สำหรับลักษณะนิสัยนั้น คุณกนกพร บอกว่า เป็นคนที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงาน ซึ่งถ้าตั้งใจจะทำอะไรแล้วนั้น ต้องทำให้ได้และต้องเป็นสิ่งที่ถูกต้อง โดยคติเตือนใจที่ยึดถือคือต้องเอาปัญหาของพี่น้องประชาชนมาแก้ไข ส่วนการเลี้ยงลูกนั้นก็ปลูกฝังสิ่งดีๆ มาตั้งแต่เด็กๆ สอนให้รู้จักเคารพผู้ใหญ่ เป็นคนดี รู้จักหน้าที่และสอนให้รู้จักช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุด โดยตั้งแต่เด็กไม่เคยป้อนข้าวลูกเลย คือลูกโตพอในระดับที่ต้องช่วยเหลือตัวเองก็ให้ทานข้าวเอง ซึ่งลูกๆ ก็ประสบความสำเร็จในชีวิต

ส่วนกิจกรรมยามว่างนั้น ชอบปลูกต้นไม้ ปลูกผักสวนครัวที่สามารถนำมารับประทานได้ ซึ่งต้องบอกเลยว่า เรื่องสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญ และทุกคนต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ นอกจากนี้ ผักที่ปลูกก็ยังสามารถนำไปแจกจ่ายแบ่งปันให้กับพี่น้องประชาชนได้อีกด้วย ซึ่งเพียงเท่านี้ตนก็มีความสุขและอิ่มเอมหัวใจแล้ว

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 มีนาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...