นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กกท.) เป็นประธานงานแถลงข่าวและพิธีลงนาม MOU การทำความตกลงการให้การช่วยเหลือ การส่งเสริมหรือการสนับสนุนกีฬาเจ็ตสกีอาชีพของไทย ภายใต้ชื่อโครงการ "กีฬาอาชีพ ติดธงชาติไทย" โดยมีนายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย นายสนิท วรปัญญา นายกสมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทยฯ แขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชน ร่วมในงานแถลงข่าว ณ ห้องประชุม ชั้น 25 การกีฬาแห่งประเทศไทย
จากการที่การกีฬาแห่งประเทศไทยได้ทำบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับบริษัท เอเชี่ยนมัลติสปอร์ต แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์ทัวร์นาเม้นท์เจ็ตสกีเวิลด์คัพและเวิลด์ซีรี่ส์ โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีนั้น
นายพิพัฒน์ เปิดเผยว่า “ครั้งนี้เป็นรูปแบบของการพัฒนางานกีฬาไทยรูปแบบใหม่อีกด้านหนึ่ง เราอาจจะไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไรว่า กีฬาไทยนั้น จำเป็นที่จะต้องพัฒนาด้านทรัพย์สินทางปัญญาด้วยเช่นกัน เจ็ตสกีอาชีพนั้น สามารถพัฒนาไลเซนส์ไทย หรือลิขสิทธิ์กีฬาที่สร้างโดยคนไทยขึ้นไปเป็นผู้นำของโลก นับเป็นสิ่งที่น่ายินดีและน่าตื่นเต้นมาก เพราะที่ผ่านมา เราจะเคยชินได้ยินแต่กีฬาจากต่างประเทศประชาสัมพันธ์เข้ามาในประเทศไทย แต่ครั้งนี้เราจะประชาสัมพันธ์กีฬาลิขสิทธิ์ไทยออกไปทั่วโลกบ้าง ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างมากมาย อีกทั้งสถานีโทรทัศน์กีฬายักษ์ใหญ่ของโลก ยูโรสปอร์ต จะนำไปออกอากาศสู่เครือข่ายการรับชมกว่า 155 ล้านครัวเรือน หรือกว่า 500 ล้านคน ในทุกๆ สนามด้วย"
ด้าน ดร.ก้องศักด กล่าวเสริมว่า “ถึงวันนี้วงการกีฬาไทยได้พัฒนาขึ้นมาในหลายๆ ด้าน โครงการนี้เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า เราไม่ได้ทำงานพัฒนากีฬาเฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น แต่จำเป็นที่จะต้องขยายศักยภาพของกีฬาไทยด้านลิขสิทธิ์ออกไปแข่งขันในเวทีโลกด้วย สำหรับกีฬาเจ็ตสกีอาชีพนั้น เราต่อยอดความสำเร็จจากที่กีฬาเจ็ตสกีอาชีพไทยขึ้นเป็นผู้นำโลกสำเร็จแล้ว มีนักกีฬาทั่วโลกติดตามทั้งทัวร์นาเม้นท์เวิลด์ซีรี่ส์และเวิลด์คัพ จึงได้เพิ่มเป้าหมายให้กีฬานั้น ต้องสร้างประโยชน์แก่ชาติอย่างชัดเจนยิ่งขึ้นด้วย เรียกว่า โมเดลกีฬาอาชีพติดธงชาติไทย โดยพัฒนาประโยชน์ 4 ด้าน คือ การชี้วัดกีฬาไทยและความแข็งแกร่งยั่งยืนในเวทีโลก, มีสื่อส่งออก เพื่อประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในระดับนานาชาติ ต้องสนับสนุนการท่องเที่ยว และสร้างเม็ดเงินรายได้ทางเศรษฐกิจจากกีฬา เช่น เจ็ตสกีนี้ ตั้งเป้าหมายรวมกว่า 4,000 ล้านบาทต่อปี
การสร้างเม็ดเงินทางเศรษฐกิจของกีฬาเจ็ตสกีแบ่งเป็น 4 หัวข้อ ได้แก่ 1.การนำเข้ารายได้และการสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจจากทัวร์นาเม้นท์เวิลด์คัพ สร้าง World Hub การแข่งขัน-แสดงสินค้า-จัดประชุมสัมมนา เป้าหมาย 1,000 ล้านบาท, การสร้างตลาดแข่งขันไทย 650 ล้านบาท, การสร้างตลาดกีฬาในประเทศ 2,000 ล้าน บาท และที่ยอดเยี่ยมคือ เริ่มต้นการพัฒนาอุตสาหกรรมกีฬาส่งออกราว 200 ล้านบาท รวมเป็นเป้าหมายของ แผนงานกีฬาเจ็ตสกี ที่เราจะร่วมกันผลักดัน มีเป้าหมายประมาณ 4,000 ล้านบาทต่อปี