ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
ครม.ไฟเขียวขยายเวลาลดภาษีที่ดินฯ - ค่าธรรมเนียมการโอน-จำนอง
26 ม.ค. 2564

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ที่ประชุมมีเห็นชอบขยายระยะเวลาการจัดเก็บภาษีสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งจะเป็นการลดภาษีที่ดินฯ 90% ของจำนวนภาษีที่คำนวณได้ ตามมาตรา 42 หรือ มาตรา 95 แล้วแต่กรณีสำหรับการจัดเก็บในปี 64 รวมทั้งการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย โดยจะลดค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 2% เหลือเพียง 0.01% และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จาก 1% เหลือ 0.01%

ทั้งนี้ จะมีผลตั้งแต่ถัดจากการประกาศในราชกิจจานุบเกษาจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 64

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการขยายระยะเวลาจัดเก็บภาษีที่ดินและการยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาริมทรัพย์ จะทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สูญเสียรายได้กว่า 4 หมื่นล้านบาท แต่ได้มอบหมายให้สำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปจัดสรรงบฯชดเชยให้ตามความเหมาะสม

ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ประกอบด้วย

1.ขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี 2563 กับกรมสรรพากรออกไปอีก 3 เดือน ซึ่งเดิมกำหนดสิ้นสุดยื่นวันสุดท้าย 31 มี.ค. 2564 ออกไปเป็นวันที่ 30 มิ.ย. 2564

2.การลดอัตราจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างรอบปี 64 ลง 90% และให้จัดเก็บจริงเพียง 10% ครอบคลุมที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย ทำการเกษตร ที่ดินว่างเปล่า และใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ อุตสาหกรรมหรืออื่น ๆ

3.ขยายมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนซื้ออสังหาริมทรัพย์  สำหรับราคาบ้านไม่เกิน 3 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และลดค่าใช้จ่ายของประชาชนที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย โดยจะลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์และห้องชุดจากเดิม 2% ของราคาประเมินทุนทรัพย์เหลือ 0.01%

4.ค่าจดทะเบียนจำนองอสังหาริมทรัพย์และห้องชุดจากเดิม 1% ของมูลค่าที่จำนอง เหลือ 0.01% ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มาก กรณีซื้อบ้านหลังละ 3 ล้านบาท เดิมจะต้องเสียค่าโอนและจดจำนองสูงถึง 60,000 บาท จะลดเหลือ 300 บาทเท่านั้น

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 มีนาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...