ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เกษตรนำไทย ย้อนกลับ
ธ.ก.ส.ชี้พ.ย.นี้ราคากลุ่มเกษตรดีขึ้น/ยกเว้นกลุ่มข้าวลดลง
31 ต.ค. 2563

นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรในเดือนพฤศจิกายน 2563 โดยสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ น้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์ก ราคาอยู่ที่ 14.79 -14.87 เซนต์/ปอนด์ (10.24 – 10.29 บาท/กก.) เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.50 – 1.00

เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากความกังวลกับสภาวะอากาศที่แห้งแล้งในประเทศบราซิลและสหภาพยุโรปอาจทำให้ผลผลิตอ้อยลดลงส่งผลให้ผลผลิตน้ำตาลลดลง ขณะที่มีความต้องการนำเข้าน้ำตาลของประเทศจีนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลง อาจส่งผลให้ราคาน้ำตาลทรายดิบปรับลดลงได้  ยางพาราแผ่นดิบ ชั้น 3 ราคาอยู่ที่ 54.15 – 56.61 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 4.11 – 8.85

เนื่องจากความต้องการใช้ยางพาราภายในประเทศและต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปริมาณผลผลิตยางพาราออกสู่ตลาดน้อยลงจากการขาดแคลนแรงงาน และยางแผ่นรมควันขาดตลาดเนื่องจากเกษตรกรหันไปขายน้ำยางพาราสดกันมากขึ้น มันสำปะหลัง ราคาอยู่ที่ 1.74 – 1.79 บาท/กก.เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.58 – 3.47 เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูกาลผลิตปี 2563/64 ผลผลิตออกสู่ตลาดยังไม่มาก

ประกอบกับความต้องการผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังในการส่งออกเพิ่มสูงขึ้นจากตลาดประเทศจีนที่ต้องการนำไปทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีปริมาณสต็อกคงเหลือลดลง

ปาล์มน้ำมัน ราคาอยู่ที่ 5.20 – 5.40 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 2.20 – 7.78 เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง ประกอบกับราคาน้ำมันปาล์มดิบยังปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้น  สุกร ราคาอยู่ที่ 78.34 – 78.84 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.66 – 1.31 เนื่องจากความต้องการสุกรมีชีวิตจากประเทศเพื่อนบ้านยังคงมีอย่างต่อเนื่องจากการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ประกอบกับคาดว่าความต้องการเนื้อสุกรภายในประเทศจะเพิ่มขึ้น

จากมาตรการวันหยุดเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ และกุ้งขาวแวนนาไม ราคาอยู่ที่ 133.25 – 134.00 บาท/กก. เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนร้อยละ 0.19 – 0.75 เนื่องจากอากาศที่เริ่มเย็นลงทำให้กุ้งเจริญเติบโตช้า เกษตรกรชะลอการเพาะเลี้ยงตามการแปรปรวนของภูมิอากาศในช่วงเปลี่ยนฤดูกาล ในขณะที่ความต้องการของตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับมาตรการวันหยุดเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ส่งผลให้ความต้องการกุ้งเพิ่มขึ้น

ด้านสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคาอยู่ที่8,547 – 8,739 บาท/ตัน ลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 1.45 – 3.62 เนื่องจากผลผลิตข้าวนาปีออกสู่ตลาดมากขึ้น

ประกอบกับผู้นำเข้าข้าวบางส่วนยังคงมีสต็อกข้าวเพียงพอจึงชะลอการนำเข้าข้าวข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาอยู่ที่ 11,180 – 11,433 บาท/ตัน ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 4.20 – 6.31 ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ราคาอยู่ที่ 12,112 – 12,332 บาท/ตัน ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 1.61 – 3.36 เนื่องจากการเข้าสู่ปรากฏการณ์ลานีญาในช่วงครึ่งปีหลังของประเทศไทย ทำให้ปริมาณน้ำเพียงพอต่อการเพาะปลูกข้าว โดยคาดว่าผลผลิต

ข้าวนาปีส่วนใหญ่ที่จะออกสู่ตลาดเดือนพฤศจิกายน 2563 จะเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ประกอบกับโรงสียังคงประสบปัญหาสภาพคล่อง ทำให้ระบายข้าวหอมมะลิออกสู่ตลาดในช่วงนี้เพื่อรองรับข้าวฤดูกาลใหม่ และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้นไม่เกิน 14.5% ราคาอยู่ที่ 7.39 – 7.42 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.50 -1.00 เนื่องจากอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รุ่นแรกที่เก็บเกี่ยวผลผลิตได้มากขึ้น ส่งผลให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดต่อเนื่อง

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 มีนาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...