ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เกษตรนำไทย ย้อนกลับ
ลำปางพบโรคระบาดในหมู แนะกินแบบสุก
03 ต.ค. 2563

นายศร ธีปฏิมากร ปศุสัตว์จังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวการป่วยตายผิดปกติของสุกรในพื้นที่ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ได้สร้างความตื่นตระหนกให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร และประชาชนทั่วไปในพื้นที่ จ.ลำปาง ส่งผลทำให้ประชาชนทั่วไปงดการบริโภคเนื้อสุกร ทำให้ผู้ขายเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสุกรมีปริมาณขายที่ลดลง ซึ่งเป็นโรคในระบบสืบพันธุ์และโรคในระบบทางเดินหายใจของสุกร ในพื้นที่ อ.แม่ทะ และ อ.ห้างฉัตร ทางสำนักงานปศุสัตว์ได้กำจัดซากสุกรที่ล้มตายลง และฝังซากอย่างถูกวิธีในพื้นที่ โดยไม่ได้มีการเคลื่อนย้ายออกไป

ขณะนี้ทางปศุสัตว์สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ส่วนสาเหตุหลักๆ นั้นทราบมาว่า โรคระบาด เกิดมาจากรถพ่อค้าที่เคลื่อนย้ายหมูโดยรับซื้อหมูในเขตนอกพื้นที่เข้ามา ทำให้เกิดโรคระบาดดังกล่าว ซึ่งขณะนี้มีการทำลายหมูในเขตพื้นที่ที่มีโรคระบาดไปแล้วรัศมี 1 กม. ส่วนการบริโภคเนื้อสุกรชำแหละขอให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ และซื้อเนื้อหมูตามร้านจำหน่ายที่น่าเชื่อถือได้ ปศุสัตว์ OK เพื่อนำไปบริโภค

นายศร กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่ จ.ลำปาง และสร้างความเข้าใจกับเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร และประชาชนทั่วไป สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดลำปาง จึงขอแจ้งประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนชาวลำปาง ดังนี้ 1.โรคระบาดในสุกรที่พบในพื้นที่ จ.ลำปางคือโรค Porcine Respiratory and ReproductiveSyndrome(PRRS) เป็นโรคระบาดในสุกรเท่านั้น ไม่ติดจากสุกรสู่คน

2.เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรยกระดับระบบป้องกันภัยทางชีวภาพของฟาร์มให้อยู่ในระดับสูงสุด หากพบการป่วยตายผิดปกติของสุกร ให้แจ้งเจ้าหน้าปศุสัตว์ในพื้นที่ทันที่ เพื่อการควบคุม ป้องกันโรคระบาด มิให้แพร่ระบาดในวงกว้าง

3.ประชาชนทั่วไป ในการบริโภคเนื้อสุกรสามารถบริโภคได้ตามปกติ ขอให้เลือกซื้อเนื้อสุกรจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น ร้านที่จำหน่ายเนื้อสุกรที่ได้รับรองปศุสัตว์โอเค หรือผ่านตรวจรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข 4.ควรบริโภคเนื้อสุกรที่ปรุงสุก งดการบริโภคอาหารประเภทเนื้อสุกรดิบ เช่น ลาบดิบ หลู้ เป็นต้น

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...