ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ธรรมาภิบาล ย้อนกลับ
รมว.ยุติธรรม และดีเอสไอ แถลงโชว์ผลงานยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด 500 ล้านบาท รวมผลงานไม่ถึงปีได้ 2 พันล้านบาทแล้ว หลังใช้เทคโนโลยีใหม่สืบค้นธุรกรรม ตั้งเป้าปีหน้าต้องยึดให้ได้ 6 พันล้านบาทตัดวงจรยาเสพต
21 ส.ค. 2563

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ศอ.ปส.) พร้อมด้วย พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และนายอุทัย สินมา อธิบดีอัยการสำนักงานคดีแรงงานภาค 3 ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานสืบสวนสอบสวนทางการเงิน เพื่อการยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด (ครั้งที่ 6/2563) ร่วมกันแถลงข่าว “ยุทธการพิทักษ์ไทย ยึดทรัพย์ ตัดวงจรยาเสพติด” ครั้งที่ 5/2563

นายสมศักดิ์ ระบุว่า ตามนโยบายเร่งด่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่ให้ไว้เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 ที่สั่งการให้ขยายผล เพื่อจับกุมนายทุน และผู้อยู่เบื้องหลังการค้ายาเสพติด รวมถึงจัดตั้งกลไกการบูรณาการการปราบปรามยาเสพติด เพื่อสืบสวนขยายผลและยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด โดยดีเอสไอ เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ที่ได้รับมอบหมายภารกิจในการสอบสวนเส้นทางการเงินของเครือข่าย น.ส.ชบาฯ จนล่าสุดมีการปิดล้อม ตรวจค้น เป้าหมาย เครือข่ายยาเสพติด เพื่อตัดวงจรด้วยการยึดทรัพย์ ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา ดีเอสไอได้ใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นธุรกรรมทางการเงินที่ทันสมัย โดยปฏิบัติการสืบสวน สอบสวนเครือข่ายยาเสพติดอย่างเข้มข้น เพื่อติดตามเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดทางกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถอายัดบัญชีธนาคาร และทรัพย์สินที่เป็นทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ อสังหาริมทรัพย์ รถยนต์หรู กระเป๋าแบรนด์เนม เงินสดไทยและต่างประเทศรวมมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท

 นายสมศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ปฏิบัติตัดวงจรยาเสพติดดำเนินการมาตลอด 7 เดือน ถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการปรามปราบยาเสพติดให้ได้มากที่สุด จากปีก่อนสถิติการยึดทรัพย์ ที่ทำได้ทั้งปีเฉลี่ยเพียง 600 ล้านบาท แต่เมื่อเรานำวิธีการตัดวงจรมาใช้ไม่ถึง 1 ปี เราสามารถยึดได้กว่า 2,000 ล้านบาท ถือว่าเกินเป้ากว่าที่เรากำหนด การดำเนินงานในครั้งตนต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่ทำให้เราประสบความสำเร็จและในปีต่อไปเราจะทำงานให้เข้มข้นตามแนวทาง 10 X RULE ( ทำงาน 10 เท่า) ดังนั้นในปีหน้าเราจะตัดวงจรยาเสพติดให้ได้ 6,000 ล้านบาท

ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า ยุทธการครั้งนี้ทางดีเอสไอใช้เวลาในการติดตามกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดมากกว่า 3 เดือน และนำเทคโนโลยีสืบค้นธุรกรรมทางการเงินมาใช้เพียง 2 เดือนสามารถเริ่มปฏิบัติการพร้อมกันได้ถึง 5 จุด ใน จ.ชลบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ 2 จุด คือ เขตบางเขน และตลิ่งชัน โดยจุดที่สามารถอายัดทรัพย์สินได้มากที่สุดในการลงพื้นที่ คือ เขตตลิ่งชันได้ทองคำแท่งน้ำหนักประมาณ 1,000 บาท พระเครื่องและสร้อยทองคำรวม 35 รายการ เครื่องประดับอื่นอีก 10 รายการ และยังพบธนบัตรไทยและธนบัตรต่างชาติอีกประมาณ 1 ล้าน 2 แสนบาท  และมีบัญชีธนาคาร 65 บัญชี มูลค่า 50 ล้านบาท บ้านพร้อมที่ดิน 85 รายการ มูลค่า 340 ล้านบาท รถยนต์ 97 คัน มูลค่ากว่า 83 ล้านบาท ทองคำ1,064 บาท มูลค่ากว่า 31 ล้านบาท พระกรอบทองพร้อมสร้อยทอง 30 รายการ มูลค่ากว่า 2 ล้าน กระเป๋าแบรนด์เนม 11 ใบ มูลค่ากว่า 8 แสนบาท เครื่องประดับ มูลค่า 5 แสนบาท
นอกจากนี้ยังพบเงินสดสกุลต่างๆ อาทิ เงินดอลลาร์ เงินกีบลาว เงินดองเวียดนาม รวมทั้งสิ้นกว่า 1 ล้าน 2 แสนบาท และรวมมูลค่าการยึดทรัพย์ ทั้งสิ้นกว่า 500 ล้านบาท
 
 พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เรายังสามารถเข้ายึด อายัดไม้แปรรูป ใน จ.สมุทรสาครได้อีกจำนวนหนึ่งด้วย ซึ่งในขณะนี้ดีเอสไอ ได้ส่งมอบให้กรมป่าไม้ ตรวจสอบว่าไม้เป็นชนิดใด มีปริมาณเท่าใด หากพบว่าเป็นไม้ที่ไม่ถูกต้อง ดีเอสไอจะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด ตนขอยืนยันว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ จะเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติงาน และจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับผู้กระทำความผิดในลักษณะนี้ให้ได้รับการลงโทษตามกฎหมายอย่างหนักต่อไป

 น.ส.รัศมี สีตลวรางค์ ผู้อำนวยการส่วนคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ2 ดีเอสไอกล่าวว่า กลุ่ม น.ส.ชบาฯ ทำหน้าที่รับเงินจากบุคคลอื่น เบื้องต้นพบว่ามีกว่า 60 คน โดยบัญชีที่มีเงินโอนเข้ามามากที่สุดในรอบ 1 ปี มีหมุนเวียนประมาณ 100 ล้านบาท เเละในบัญชีอื่นๆทำธุรกิจเเตกต่างกันไป เช่น สถานบันเทิงและธุรกิจผิดกฎหมายในหลายพื้นที่ หลังจากรับเงินมาเเล้ว น.ส.ชบา จะโอนเงินไปให้บุคคลอื่นต่อหลาย 10 บัญชี โดยขณะนี้มีชื่อบัญชีปลายทางเเล้ว ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ ขยายผล เเต่ส่วนใหญ่พบเป็นชื่อบัญชีคนไทย เเละมีชาวต่างชาติประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย  มีเงินหมุนเวียนของเครือข่ายนี้กว่า 10,000 ล้านบาท

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...