ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
สื่อสาร - คมนาคม ย้อนกลับ
บอร์ดดีอีไฟเขียว“แคท” บริหารดาวเทียมไทยคม
02 พ.ค. 2563

บอร์ดดีอีไฟเขียว “แคท” บริหารดาวเทียมไทยคม หลังสิ้นสุดสัมปทาน ก.ย. 2564 โดยเตรียมเสนอให้ ครม.อนุมัติ พ.ค.นี้ พร้อมอนุมัติให้ใช้เงินกองทุนดีอี 1,400 ล้านบาท ช่วยสู้โควิด

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ได้เห็นชอบให้ บมจ.กสท โทรคมนาคม (แคท) เป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการทรัพย์สินที่กระทรวงดิจิทัลฯ รับโอนหลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทานให้บริการดาวเทียม กับ บมจ.ไทยคม ในเดือน ก.ย. 2564 โดยกระทรวงดิจิทัลฯจะเตรียมนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาพร้อมแผนการบริหารโครงการของแคท เพื่ออนุมัติภายในเดือน พ.ค.นี้

“ทางคณะวิจัยจากจุฬาฯ ที่กระทรวงได้ว่าจ้างเป็นที่ปรึกษาโครงการการเข้าร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนในรูปแบบ PPP ได้สรุปข้อสำรวจเบื้องต้นพบว่า ด้วยเวลาที่เหลืออยู่ก่อนสิ้นสุดสัมปทาน ไม่เพียงพอสำหรับการทำ PPP ทั้งยังไม่มีผู้สนใจจะเข้าลงทุน เนื่องจากเป็นโครงการที่ไม่สามารถทำกำไรได้มาก การมอบให้แคทที่เสนอตัวเข้ามาจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า”

โดยจากนี้แคทจะต้องรีบนำเสนอแผนโครงการทั้งหมด เพื่อให้กระทรวงเสนอให้ ครม.อนุมัติว่า แคทดำเนินการเองหรือหาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาร่วมลงทุน สำหรับทรัพย์สินตามสัมปทานดาวเทียมที่กระทรวงจะสามารถเข้าบริหารจัดการได้ทันทีหลังสิ้นสุดสัมปทานคือ ดาวเทียมไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) ไทยคม 5 และ 6 ซึ่งมีอายุการใช้งานเหลืออีกราว 8-10 ปี ส่วนดาวเทียมไทยคม 7 และ 8 ยังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาข้อพิพาทของอนุญาโตตุลาการ เนื่องจากไทยคมยืนยันว่า ไม่ใช่ทรัพย์สินสัมปทาน

นอกจากนี้ ในที่ประชุมบอร์ดดีอียังได้อนุมัติกรอบวงเงินเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นเงิน 1,400 ล้านบาท โดยจะใช้เงินจากกองทุนดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 2,400 ล้านบาท โดยจะเปิดให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ โรงพยาบาลรัฐ สถานพยาบาลภาครัฐ โรงพยาบาลในมหาวิทยาลัย และโรงเรียนแพทย์ สภากาชาดไทยที่ได้รับผลกระทบหรือต้องการช่วยเหลือ สนับสนุน หรือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดของโรคนี้ ยื่นข้อเสนอโครงการเข้ามาให้บอร์ดกองทุนพิจารณาอนุมัติวงเงินได้

แบ่งเป็นส่วนแรก วงเงิน 1,000 ล้านบาท สำหรับจัดหาเทคโนโลยีหรืออุปกรณ์ด้านดิจิทัลที่สนับสนุน ช่วยเหลืองานด้านสาธารณสุขและการรักษาสุขภาพของประชาชน เช่น เครื่องช่วยหายใจ หุ่นยนต์ทำความสะอาด หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อโรคกล้องวงจรปิด เครื่องรับส่งวิทยุมือถือ โดยให้อยู่ในดุลพินิจของคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมส่วนที่สอง วงเงิน 400 ล้านบาท สำหรับโครงการที่ช่วยเหลือ ฟื้นฟู หรือเยียวยาจากผลกระทบที่เกิดจากไวรัสโควิด-19

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 มีนาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...