ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ข่าวเด่น / ไฮไลท์ ย้อนกลับ
นายวิน แอลลิส กับ นายศุภชัย หล่อโลหการ
27 ต.ค. 2558

ไม่ได้รู้จักอดีตผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) ผอ. ศุภชัย เป็นการส่วนตัว แต่ข้อมูลที่ได้ได้มาจากพนักงานภายใน สนช. และอยากจะแชร์ให้กับคนอื่นที่ไม่รู้เรื่องได้เข้าใจ

ข้อ 1/3

  สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้กักตัวนายวิน แอลลิส ตอนที่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองสนามบินสุวรรณภูมิ ในวันที่ 3 ก.ย. 58 ในข้อหาเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ และนายวิน แอลลิส ได้ให้ข่าวกับสื่อมวลชนทั้งในประเทศและต่างประเทศว่า ถูก ผอ. สนช. คนก่อน คือ นายศุภชัย หล่อโลหการ กลั่นแกล้งจากกรณีพิพาทเรื่องการคัดลอกผลงานวิชาการ เมื่อปี 2550 โดยอ้างว่าถูกขึ้นบัญชีดำจากหนังสือที่ วท.๖๔๐๑/๐๕๒๙ ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2552 ซึ่งลงนามโดยนายศุภชัย

  แต่ข้อเท็จจริงคือหนังสือดังกล่าวที่ได้ส่งถึง ต.ม. เป็นเรื่องขอให้ตรวจสอบการเสียภาษีเงินได้บุคคล ซึ่งนายวิน แอลลิส ไม่ได้ยื่นภาษีเงินได้ที่ได้มาจากสำนักงานนวัตกรรม ขณะที่เป็นลูกจ้างอยู่  และรวมถึงเงินรายได้อื่นๆ ที่นายวิน แอลลิส ได้ใช้ทรัพยากรของประเทศไทยไปรับจ้างทำงานรวมทั้งเป็นที่ปรึกษาด้านการเกษตรให้ประเทศต่างๆ  แต่ไม่เคยเสียภาษีเงินรายได้

  การที่นายวิน แอลลิส ไปรับจ้างเป็นที่ปรึกษาด้านการเกษตรให้ประเทศต่างๆ เป็นการเอาความลับด้านการเกษตรของไทย โดยเฉพาะภูมิปัญญาไทยไปขายให้ต่างประเทศ ซึ่งคนไทยแท้ๆ กลับไปเห็นใจฝรั่งคนหนึ่งที่แอบมาทำมาหากินในเมืองไทยตั้ง 20-30 ปีจนตัวเองร่ำรวยมหาศาล แต่ประเทศไทยไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย (ข่าวลับจาก ต.ม.) ยังแจ้งว่า นายวิน แอลลิส โดนกักตัวเป็นข้อหาเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง และอาจจะถูกเนรเทศ (ซึ่งขณะนี้นายวินได้จ่ายเงินประกันตัวเพื่อให้ ต.ม. ปล่อยตัวออกมาก่อน) ไม่ใช่เรื่องที่นายศุภชัยไปยื่นหนังสือถึง ต.ม. ให้ตรวจสอบ แต่เป็นเรื่องการฟ้องร้องเรื่อง "พันธุ์ข้าว" กับนักวิชาการไทยท่านหนึ่ง ซึ่งเขาไม่อยากเป็นข่าว

ข้อ 2/3

  และอีกประเด็นคือวันที่ 4 ก.ย. 58 นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผอ.สนช. คนปัจจุบัน ได้ทำหนังสือถึงผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เรื่องขอเพิกถอนหนังสือที่ ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2552 ซึ่งเป็นหนังสือที่นายศุภชัยฯ ได้ทำถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อแจ้งข้อมูลการไม่เสียภาษีเงินได้ของนายวิน แอลลิส โดยเรื่องนี้ ฝ่ายความมั่นคงน่าจะต้องไปตรวจสอบการปฎิบัติงานของ ผอ.สนช. เพราะนายพันธุ์อาจ ได้ทำหนังสือลงวันที่ 4 ก.ย. 58โดยมิได้มีต้นเรื่องหรือการร้องขอจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง  และได้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนจนผิดสังเกต (เพียง 1 วันหลังจากนายวินถูกจับเมื่อวันที 3 กันยายน) โดยมิได้พิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบว่าการกักตัวนายวิน แอลลิส นั้นเกิดจากสาเหตุใดซึ่งการลงนามในหนังสือดังกล่าวแสดงนัยถึงการนำหน่วยงานของรัฐไปยืนยันความบริสุทธิ์ของนายวิน แอลลิส ในขณะที่ข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏชัด

  นอกจากนี้ นายพันธุ์อาจ ยังได้ส่งสำเนาหนังสือดังกล่าวให้นายวิน แอลลิส ทางไลน์โดยตรงทันที  ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพื่อให้นายวิน แอลลิสนำหนังสือดังกล่าวไปโพสต์ในเฟซบุ๊คแสดงความบริสุทธิ์ของตนเอง

ข้อ 3/3

และอีกเรื่องคือเรื่องการเพิกถอนปริญญาเอกของนายศุภชัยนั้น นายวิน แอลลิสได้ร้องเรียนต่อจุฬา "ก่อน" ที่นายศุภชัยจะสำเร็จการศึกษา และกรรมการสอบวิทยานิพนธ์ของนายศุภชัยก็ทราบดี แต่ที่ให้สอบผ่านเพราะหัวใจของวิทยานิพนธ์ที่นายศุภชัยเสนอนั้น เป็นส่วนที่นายศุภชัยสังเคราะห์ขึ้นมาเอง แต่ต่อมาจุฬาทนการร้องเรียนของนายวิน แอลลิส ไม่ไหวเพราะเล่นร้องเรียนทุกวัน จนต้องเพิกถอนปริญญาเอกนายศุภชัย เพื่อให้ไปสู้กันในศาล ซึ่งนายศุภชัยก็ได้ยื่นฟ้องเรื่องนี้กับศาลปกครอง และคดีกำลังจะตัดสินในเร็วๆ นี้

ดังนั้น จึงไม่ควรด่วนตัดสินว่าใครถูกใครผิด ใครลอกใคร

อีกเรื่องที่หลายคนไม่รู้คือ นายวิน แอลลิส กับนายศุภชัย เคยเป็นเพื่อมานานกว่า 30 ปี แต่วันนี้ที่ทะเลาะกันแหลกลาญ เพราะเมื่อปี 2547 นายวิน แอลลิส ตกงานอยู่ นายศุภชัยเลยชวนมาทำงานที่สำนักงานนวัตกรรม แต่ต่อมานายวิน แอลลิส แอบใช้ทรัพยากรในสำนักงานทำงานส่วนตัวมากเกินไป นายศุภชัยไม่พอใจ เลยไม่ต่อสัญญาให้และลดระยะเวลาจัดจ้างในสัญญาลง ทำให้นายวิน แอลลิส

ไปฟ้องศาลว่านายศุภชัยปลอมแปลงเอกสารสัญญา ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นก็เห็นชอบกับการลดระยะเวลาจ้างลงมาอยู่แล้ว เรื่องนี้ไปถามพนักงานสำนักงานนวัตกรรมได้ทุกคน 

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 มีนาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...